Search


Celeste & Jesse Forever (2012)

ค...

  • Share this:


Celeste & Jesse Forever (2012)

คนเราเลิกกันแล้วทำไมจะต้องโกรธเกลียดกัน ทำไมเราไม่รู้สึกยินดีถ้าหากเขาจะมีความสุขกับรักครั้งใหม่ ทำไมเราไม่อวยพรเอาใจช่วยให้เขาไปกันได้ด้วยดี เหมือนอย่างใน Celeste & Jesse Forever ที่บอกเล่าคู่รักที่เลิกกันแล้วยังเป็นเพื่อนสนิทกันอย่างดีจนกระทั่งอีกฝ่ายกำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อนั้นที่ตัวละครเริ่มรับมือความเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะในใจลึก ๆ ต่างรู้ดีว่าทั้งคู่ต่างยังคงรักกันอยู่

'เซเลสต์' (Rashida Jones) บอกเลิก 'เจส' (Andy Samberg) ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาไม่มีความไม่มั่นคงพอจะเป็นคู่ชีวิตกับเธอ เขาไม่มีความทะเยอทะยานแถมยังดูไม่เอาไหน แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุขก็ตาม เช่นกันกับเจสที่ยอมเลิกกับเธอเพราะเขาไม่อยากเป็นลูกเบี้ยต่อไป เธอมีอนาคตการงานที่ดีผิดกับเขา แต่เขายังมีความสุขที่ได้ใช้เวลาอยู่กับเธอแม้จะเลิกกันไปแล้วก็ตาม
.
ในช่วงแรกของหนังจะพูดถึงความสุขไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง ชีวิตเรายังต้องเผชิญเรื่องอื่น ๆ อีกมากมายเช่นการสร้างครอบครัว ซึ่งทั้งสองคนต่างมีปัญหาต่อกันอันเป็นเหตุนำไปสู่การหย่าร้าง เซเลสต์มองหาคนที่การงานดี ส่วนเจสมองหาคนที่อยู่เคียงข้างช่วยผลักดันเขามากกว่าช่วยแบบลูกไล่ที่ด้อยกว่า ปัญหาจึงเกิดจากการที่ทั้งสองคนมองหาสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม
.
แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่งที่ต่างฝ่ายต่างพยายามเริ่มต้นใหม่ เซเลสต์พยายามมองหาคู่เดทคนใหม่ที่เหมาะสมกับตัวเอง ส่วนเจสก็พยายามประคองความสัมพันธ์กับแฟนใหม่ให้ไปได้ดี มันย่อมมีจุดหนึ่งที่ทั้งสองคนต่างย้อนนึกถึงวันเก่า ๆ ว่าก็มีความสุขดี ทำไมต้องเลิกกันด้วยล่ะ จึงมาถึงจุดที่มีฝ่ายหนึ่งเรียกร้องให้กลับมาคบกันเหมือนเดิม แต่นั่นอาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง
.
เพราะสุดท้ายมันก็วนกลับมาที่คำถามเดิมว่าเราคบกันเพื่อให้มีความสุขหรือมองหาคนที่เหมาะสม ในกรณีนี้ถึงแม้ทั้งคู่จะรู้ใจกันอย่างดี อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขแต่มีบางสิ่งที่ยังต้องปรับตัวหากัน ถ้าหากคู่นี้กลับมาคบกันก็คงไม่ต่างอะไรจากการเริ่มต้นใหม่เพราะทั้งคู่ต้องกลับไปแก้ไขในสิ่งที่เคยเป็นสาเหตุให้ต้องเลิกกัน จังหวะในหนังจึงไม่ต่างอะไรจากการบอกว่ารู้ตัวเมื่อสายเกินไป ซึ่งทำให้เราควรตอบคำถามที่ติดค้างในใจว่าทำไมคนที่เลิกกันไปแล้วจะเป็นเพื่อนสนิทกันไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วเราเชื่อว่าคนเลิกกันไม่ได้จำเป็นต้องโกรธเกลียดกันหรือหวังให้เขาล้มเหลวแต่อย่างใด

ป.ล. เกร็ดเล็กน้อยคือหลังจากจอห์น ลาสเซเตอร์ ผู้บริหารพิกซาร์ดูหนังเรื่องนี้จบ เขาต่อสายหาสองคนเขียนบทเรื่องนี้เพื่อจ้างมาเขียนบท Toy Story 4 ทันที

Director: Lee Toland Krieger (ผกก. The Age of Adaline)
writers: Rashida Jones, Will McCormack

Genre: romance, drama, comedy
7/10


Tags:

About author
ผมมีความฝันอยากเห็นคนไทยได้รู้จักหนังหลากหลายกว่าเดิม ผมจึงสร้างเพจ 'หนังโปรดของข้าพเจ้า' ด้วยความเชื่อที่ว่าทุกคนอยากแนะนำหนังโปรดของตัวเอง โดยเคารพความแตกต่างของรสนิยมทุกคน เพราะหนังโปรดของเรา อาจไม่ใช่หนังโปรดของเขา ยินดีต้อนรับคนรักหนังทุกท่านนะครับ :)
"หนังโปรดของเรา อาจจะไม่ใช่หนังโปรดของเขา" ยินดีที่ได้แนะนำหนังผ่านการเขียนรีวิว
View all posts